OFFICE HOUR : จันทร์-ศุกร์ 08:30-17:30
จันทร์-ศุกร์ : 02-541-5675, 02-541-5676
What is UV light?
แสง UV จัดอยู่ในช่วงแสงที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า (Invisible Light Wavelength) มีความยาวคลื่นสั้นกว่าช่วงที่แสงที่มองเห็นได้ (Visible Light Wavelength) แต่ยาวกว่ารังสี X-Rays
แสง UV มีคุณสมบัติพิเศษคือพลังงานสูง ส่องทะลุผ่านผิววัตถุได้ง่ายกว่าแสงที่เห็นทั่วๆไป
Where does UV light come from?
แหล่งกำเนิดของแสง UV มีมากมาย ทั้งที่มาจากธรรมชาติซึ่งก็คือดวงอาทิตย์ และที่มาจากการสังเคราะห์ขึ้น ได้แก่ Black Light, UV Lamp, UV LEDs, UV Laser เป็นต้น
Types of UV rays
แสง UV สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทตามช่วงความยาวคลื่น ได้แก่ UVA (320-400 nm), UVB (280-320 nm) และ UVC (200-280 nm) โดย UVC จะมีความยาวคลื่นน้อยสุด ส่งผลให้มีพลังงานสูงสุดในกลุ่มตามไปด้วย
What is UVGI?
UVGI (Ultraviolet Germicidal Irradiation) หมายถึงระบบการใช้แสง UV ที่มีความเข้มข้นสูงพิเศษ (Germicidal Range) เพื่อทำลายเชื้อโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Virus Bacteria Fungi และ Yeast & Mold ที่อยู่บนพื้นผิวและในอากาศ
เมื่อเชื้อโรคต่างๆได้รับปริมาณ UVC และระยะเวลาที่เพียงพอ (Dosing) ระบบสืบพันธุ์ (DNA) จะถูกทำลาย และทำให้เชื้อโรคเหล่านั้นตายในที่สุด
ระบบ UVGI ที่ได้รับการคำนวณออกแบบอย่างถูกต้องจะช่วยลดปริมาณเชื้อโรคในอากาศ (Microbial Content) ป้องกันการเกิดโรคติดต่อทางระบบหายใจ (Respiratory Airborne Diseases) เช่น ไข้หวัด2009 (H1N1) ไข้หวัดนก (H5N1) วัณโรค (Tuberculosis) แม้กระทั่ง Anthrax และอาการภูมิแพ้ หอบหืดจากสารจำพวก Allergens รวมทั้งยกระดับคุณภาพอากาศภายในอาคาร (Indoor Air Quality) ได้ด้วยการลงทุนไม่มากนัก
History of UVGI
Year |
Event |
Reference |
1892 |
พบว่าส่วนของแสงยูวีในแสงแดด มีคุณสมบัติในการกำจัดเชื้อโรค |
Ward (1892) |
1904 |
หลอดประเภท Quartz Lamp ถูกพัฒนาครั้งแรกเพื่อสังเคราะห์แสงยูวี |
Lorch (1987) |
1906 |
แสงยูวีอยู่นำไปใช้กำจัดเชื้อโรคในน้ำเป็นครั้งแรก (Water Disinfection) |
Recklinghausen (1914) |
1909 |
ประเทศในยุโรปเริ่มประยุกต์ใช้แสงยูวีในการฆ่าเชื้อโรคในน้ำ |
AWWA (1971) |
1916 |
ประเทศสหรัฐอเมริกาเริ่มประยุกต์ใช้แสงยูวีในการฆ่าเชื้อโรคในน้ำ |
AWWA (1971) |
1932 |
แสงยูวี ที่ระดับ 253.7 nm ซึ่งมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรค ถูกสังเคราะห์ได้ครั้งแรก |
Ehrismann (1932) |
1936 |
ระบบ UV ที่ติดเหนือหัว (Upper Air UV) ถูกนำมาใช้ในโรงพยาบาลเป็นครั้งแรก |
Wells and Wells (1936) |
1937 |
ระบบ UV ที่ติดเหนือหัว (Upper Air UV) ถูกนำมาใช้ในโรงเรียนเป็นครั้งแรก |
Wells (1938) |
1954 |
ระบบ UV ถูกนำมาใช้ร่วมกับระบบปรับอากาศ |
MRC (1954) |
1994 |
CDC ยอมรับและแนะนำการใช้ระบบ UVGI เพื่อกำจัดวัณโรค (TB) |
CDC (2005) |
1999 |
WHO ยอมรับและแนะนำการใช้ระบบ UVGI เพื่อกำจัดวัณโรค (TB) |
WHO (1999) |
2003 |
CDC แนะนำระบบ UVGI สำหรับโรงพยาบาลอย่างเป็นทางการ |
CDC (2003) |
2003 |
ASHRAE แต่งตั้งหน่วยงานเพื่อรองรับระบบ UVGI สำหรับการกำจัดเชื้อโรคในอากาศและพื้นผิวโดยเฉพาะ |
Martin et al. (2008) |
2005 |
รัฐบาลของประเทศสหรัฐอเมริการะบุให้ใช้ระบบ UVGI ในการกำจัดเชื้อโรคที่ระบบปรับอากาศ (Cooling Coil Disinfection) |
GSA (2003) |
UVGI for indoor air quality
ปัจจุบันมลพิษทางอากาศกำลังเป็นปัญหาใหญ่ เชื้อโรคที่ติดต่อได้ทางระบบหายใจ (Respiratory Airborne) มีมากมาย เช่น ไข้หวัด2009 (H1N1) ไข้หวัดนก (H5N1) SARS และเชื้อวัณโรค (Tuberculosis) เป็นต้น รวมทั้งอาการภูมิแพ้ หอบหืด อันเกิดมาจากสภาพอากาศภายในอาคารบ้านเรือน (Indoor Air Pollution)
การออกแบบอาคาร บ้านเรือนให้เป็นระบบปิด (Closed System) เพื่อรักษาพลังงาน และประหยัดค่าใช้จ่ายเป็นอีกสาเหตุทำให้เชื้อโรคเหล่านี้ถูกเก็บสะสมในอาคาร ก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆในระยะยาวโดยไม่รู้ตัว (Sick Building Syndrome; SBS)
ปัญหาเหล่านี้ครอบคลุมตั้งแต่ บ้านเรือนที่อยู่อาศัย (Residential Building) ไปถึงอาคารพาณิชย์ (Commercial Building) โดยเฉพาะ โรงพยาบาล โรงแรม โรงภาพยนตร์ห้างสรรพสินค้า รวมทั้งโรงงานอุตสาหกรรมอาหารและยา
นอกจากนี้ระบบปรับอากาศภายในอาคารก็เป็นอีกสาเหตุ โดยสามารถเปรียบเครื่องปรับอากาศได้กับตู้ฟักเชื้อโรค (Incubator) เนื่องจากภายใน Cooling Coil และ Air Duct มักมีความชื้น อุณหภูมิ เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเชื้อโรค เมื่อเชื้อโรคถูกดูดเข้ามาพร้อมอากาศจากภายนอก เพิ่มปริมาณ ถึงระยะเวลาที่เหมาะสมมันก็จะออกมากับอากาศ สร้างปัญหาให้กับผู้อยู่อาศัย